1. สภาพการจ่ายไฟทั่วไปของสถานีไฟฟ้า
สภาพการจ่ายไฟทั่วไปของสถานีไฟฟ้านั้น จะประกอบด้วยการรับไฟระบบ 115 เควี. มาจากสถานีไฟฟ้าต้นทาง Incoming No.1 เข้าเบย์ที่ 1 ผ่านสวิตช์ใบมีดและเบรคเกอร์ไปยังเมนบัส (Main Bus) และจ่ายไฟสู่เบย์ที่ 2, 4 ซึ่งเป็นเบย์ที่จ่ายไฟให้กับหม้อแปลง TP2, TP1 ตามลำดับ ส่วนเบย์ที่ 5 จะจ่ายไฟระบบ 115 เควี. ให้กับสถานีไฟฟ้าปลายทางต่อไป Outgoing No.1
สภาพการจ่ายไฟทั่วไปของสถานีไฟฟ้านั้น จะประกอบด้วยการรับไฟระบบ 115 เควี. มาจากสถานีไฟฟ้าต้นทาง Incoming No.1 เข้าเบย์ที่ 1 ผ่านสวิตช์ใบมีดและเบรคเกอร์ไปยังเมนบัส (Main Bus) และจ่ายไฟสู่เบย์ที่ 2, 4 ซึ่งเป็นเบย์ที่จ่ายไฟให้กับหม้อแปลง TP2, TP1 ตามลำดับ ส่วนเบย์ที่ 5 จะจ่ายไฟระบบ 115 เควี. ให้กับสถานีไฟฟ้าปลายทางต่อไป Outgoing No.1
รูปที่ 1 ระบบไฟฟ้ากำลัง
สำหรับหม้อแปลง TP1, TP2 จะทำหน้าที่แปลงแรงดันจากระบบ 115 เควี. เป็น 23.1 เควี.ที่พิกัดระดับแรงดันของหม้อแปลง โดยมีเบรคเกอร์รหัส
4YB-01, 1BVB-01 และ 2YB-01, 2BVB-01 เป็นอุปกรณ์ตัดตอนป้องกันหม้อแปลง
TP1 และ TP2 ตามลำดับ หม้อแปลง TP1
ขนาด 50 MVA. จะจ่ายไฟระบบ 22 เควี. ให้กับระบบจำหน่ายแรงสูงฟีดเดอร์ 1 - สูงฟีดเดอร์ 5 และมีคาปาซิเตอร์แบงค์สำหรับปรับค่า PF.
(Power Factor) ที่บัส MV No.1 และหม้อแปลง TP2 ขนาด 50 MVA. จะจ่ายไฟระบบ
22 เควี. ให้กับระบบจำหน่ายแรงสูงฟีดเดอร์
6 - สูงฟีดเดอร์ 10 และมีคาปาซิเตอร์แบงค์สำหรับปรับค่า
PF. (Power Factor) ที่บัส MV
No.2 เช่นกัน
โดยที่เบรกเกอร์รหัส 3BVB-01 อยู่ในสถานะปลดอยู่ ดังรูปที่ 2
การลัดวงจรในระบบไฟฟ้าอาจเกิดได้หลายแบบ
คือ
ระบบป้องกันประกอบด้วยอุปกรณ์หลายอย่างดังแสดงในรูปด้านล่าง
รูปที่ 2 สภาพการจ่ายไฟทั่วไปของสถานีไฟฟ้า
การจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับโหลดต่างๆ
ในระบบไฟฟ้านั้น บางครั้งอาจเกิดความผิดพร่อง (Fault) ขึ้น Fault
ที่เกิดขึ้นนั้นมีสาเหตุจากปัจจัยต่างๆ เช่น การที่ฉนวนไฟฟ้าบางส่วนเสียหายอันเนื่องมาจากความร้อนสูง
หรือจากอุบัติเหตุ ซึ่งเมื่อฉนวนเสียหายจะทำให้เกิดการลัดวงจรขึ้นได้
ความผิดพร่องจะทำให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ในระบบไฟฟ้า
รวมทั้งยังไม่สามารถจ่ายไฟให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าได้ และเมื่อระบบไฟฟ้าใหญ่ขึ้น
กระแสไฟฟ้าที่ไหลขณะลัดวงจรจะสูงมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้า เช่น
เกิดความร้อนสูง เกิดแรงดันตกและแรงดันเกิน และเกิดความถี่ต่ำ เป็นต้น
ดังนั้นระบบไฟฟ้าต้องมีระบบการป้องกัน (Protection System) ที่ดีเพื่อลดความเสียหายต่ออุปกรณ์ในระบบไฟฟ้า
สำหรับระบบการป้องกันในไฟฟ้าแรงดันสูงจะใช้ระบบ Relay ป้องกันเป็นหลัก
2. การลัดวงจรในระบบไฟฟ้า
- การลัดวงจร (Short Circuit) ระหว่างเฟสต่อเฟส หรือเฟสกับดิน มีสาเหตุเนื่องมาจากการเสื่อมของฉนวนไฟฟ้า หรือจากอุบัติเหตุ เช่นรถชนเสาไฟฟ้าหัก
- การเกิดภาวะแรงดันสูง (Over Voltage) มีสาเหตุเนื่องมาจากอุปกรณ์ควบคุมแรงดันไฟฟ้าผิดปกติ ฟ้าผ่า หรือสวิตช์ชิงเสิร์จ (Switching Surge)
- การเกิดความถี่ต่ำ (Under Frequency) มีสาเหตุเนื่องมาจากการผลิตกำลังไฟฟ้าที่ได้ไม่เพียงพอกับโหลด
- การเกิด Out of Step อันเนื่องมาจากระบบสายส่งไม่แข็งแรงพอ หรือเกิดการลัดวงจรที่ไม่สามารถถูกกำจัดออกไปอย่างทันท่วงที ทำให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าในจุดต่างๆ ไม่สามารถทำงานประสานกันได้
- การเกิดโหลดเกิน (Over Load) มีสาเหตุมาจากการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าเกินกำลัง
3. ส่วนประกอบของระบบป้องกันไฟฟ้า
รูปที่ 3 ส่วนประกอบของระบบป้องกัน
จากรูปประกอบด้วย Circuit Breaker (1) ป้องกัน Feeder เมื่อเกิด Fault ขึ้นในวงจรที่ต้องการป้องกัน Relay (2) ซึ่งรับสัญญาณมาจาก Current Transformer : CT (7) และ Potential Transformer : PT (8) แล้ว Contact ของ Relay (6) จะเคลื่อนที่ปิดเข้าหากัน เมื่อ Contact ปิดจะมีกระแสไหลจากแบตเตอรี่ (5) ในวงจร Trip (4) เมื่อมีกระแสไหลผ่านขดลวด Trip ของ Circuit Breaker (3) และ Circuit Breaker จะเปิดวงจรเพื่อตัดวงจรออกจากระบบไฟฟ้า